| |
| | ผลไม้.......ยาจากธรรมชาติ | |
---|
| |
---|
วิตามิน และแร่ธาตุที่ร่างกายเราได้รับจากการกินผลไม้เข้าไปทุกว้น เปรียบเหมือนสารหล่อลื่น | |
---|
ที่ทำให้เครืืองยนต์ หรือ กระบวนการต่างๆ ของร่างกายสามารถทำงานได้ตามปกติ | |
---|
| |
---|
| นอกจากนั้น ผลไม้ทุกชนิดยังอุดมไปด้วยเส้นใยอาหารและสารพฤกษเคมีสำคัญ | |
---|
หลายชนิดที่มีคุณสมบัติในการต่อต้านสารอนุมูลอิสระ หรือ แอนติออกซิแดนท์ ( Antioxidant ) | |
---|
ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันของร่างกายให้แข็งแรงอยู่เสมอ อีกทั้งยังช่วยชะลอความชราได้อีกด้วย | |
---|
| |
---|
| "บ้านเราเป็นประเทศที่โชคดีทีเดียว มีผลไม้มากมายหลายชนิดให้เลือกซื้อรับประทาน | |
---|
แทบทุกฤดูกาลจากทุกภูมิภาคเลยก็ว่าได้ นี่ยังไม่รวมแอ๊ปเปิ้ลเมืองจีน องุ่นแดงแคลิฟอร์เนีย | |
---|
และผลไม้อิมพอร์ตทั้งหลาย | |
---|
| |
---|
| | |
---|
| | "พอเรามีตัวเลือกมากขึ้น หลายคนจึงหลงลืมผลไม้สัญชาติไทยในสวนหลังบ้านอย่าง | |
---|
มะเฟือง ทับทิม มะยม มะขามป้อม ไปเสียถนัดใจ ทั้งที่ผลไม้เหล่านี้มีสรรพคุณทางยาที่ | |
---|
เราสามารถนำมารักษาอาการเจ็บป่วยต่างๆ มากมาย และหาได้ใกล้ตัว " | |
---|
| | |
---|
ผลไม้ไทย........ยาใกล้ตัว | |
---|
| | |
---|
1 | มะเฟือง ( Starfruit ) | |
---|
| นอกเหนือจากความสวยงามแปลกตาในเรื่องรูปทรงแล้ว ในด้านคุณค่าทางโภชนาการ | |
---|
มะเฟื่องสุก ยังอุดมไปด้วยวิตามินซี วิตามินเอ ฟอสฟอรัส และแคลเซี่ยม ช่วยรักษาอาการ | |
---|
เลือดออกตามไรฟัน เป็นยาระบายแ้ก้ท้องผูก ช่วยขับเสมหะได้ | |
---|
| |
---|
| |
---|
| | |
---|
| ในด้านสมุนไพร เราสามารถใช้ส่วนต่างๆ ของมะเฟืองมารักษาโรคได้ดังต่อไปนี้ | |
---|
| |
---|
| | ผล คั้นเอาแต่น้ำดื่ม จะช่วยบรรเทาอาการเจ็บคอ ไข้หวัด บรรเทาอาการนิ่ว | |
---|
ในทางเดินปัสสาวะ ขับนิ่วในทางเดินปัสสาวะ | |
---|
| |
---|
| | |
---|
| ช่วยลดอาการร้อนใน ช่วยขจัดรังแค นอกจากนั้นน้ำคั้นจากผลมะเฟื่องยังใช้ลบ | |
---|
รอยเปื้อนบนมือ เสื้อผ้า และของใช้ต่างๆ ไ้ด้ดีอีกด้วย | |
---|
| |
---|
| ใบ นำมาต้มผสมกับน้ำ กินแก้ไข้ ขับปัสสาวะ ขับระดู หรือหากนำมาบดให้ละเีอียด | |
---|
พอกบนผิวหนัง จะช่วยลดอาการอักเสบ ช้ำบวบ แก้ผื่นคัน กลากเกลื้อน และอีสุกอีใส | |
---|
| |
---|
| ราก มีฤทธิ์เป็นยาเย็น ต้มกับน้ำ่ช่วยดับพิษร้อน แำก้อาการปวดศรีษะ | |
---|
ปวดตามข้อต่างๆ ในร่างกาย ปวดแสบในกระเพาะอาหาร แก้อาการท้องร่วง | |
---|
| |
---|
| ดอก นิยมนำมาต้มน้ำดื่มเพื่อช่วยในการขับพิษและขับพยาธิ | |
---|
| |
---|
สูตรยารักษาผิวหนังจากมะเฟือง | |
---|
การรักษา | ส่วนที่ใช้ | วิธีใช้ | แก้กลากเกลื้อน | ใบและดอกมะเฟื่อง | ตำใบสด ยอดอ่อน หรือดอก | อีสุกอีใส | | ให้ละเอียด แล้วพอกแผล | และผื่นคัน | | |
| |
---|
ข้อควรระวัง | | ผลมะเฟื่องมีกรดออกชาติกอยู่ค่อนข้างสูง ดังนั้น จึงไม่ควรกินในปริมาณมากเกินไป | เพราะจะทำให้เป็นฝ้าได้ อีกทั้งไม่ควรกินในขณะมีประจำเดือน เพราะ จะทำให้รู้สึกปวดท้อง | สตรีมีครรภ์ไม่ควรกินมาก เพราะจะทำให้แท้ได้ | | |
| | | | ส้มโอ ( Pomelo ) | | ในส้มโอมีสารเพกทิน ( Pectin ) สูง จึงมีคุณสมบัติช่วยลดคอเลสเตอรอลในเลือด | อีกทั้งยังมีสารโมโนเทอร์ปีนที่ช่วยในการกวดจับสารก่อมะเร็ง นอกจากนั้น ส้มโอยังมีคุณสมบัติพิเศษ | อีกประการหนึ่ง คือ ช่วยขับลมในกระเพาะอาหารและลำไส้ ช่วยให้เจริญอาหารอีกด้วย | | | ใบ ใบสดนำมาตำให้ละเอียดแล้วย่างไฟให้อุ่น ใช้พอกบริเวณที่ปวดบวม หรือ | ปวดศรีษะได้ | | เปลือกผล เปลือกผลของส้มโอ มีน้ำมันหอมระเหยหลายชนิด ใช้เป็นยาขับลม | ขับเสมหะ แก้ท้องอืด แน่นหน้าอก ไอ สามารถใช้เปลือกผลตำพอกฝี และใช้จุดไฟไล่ยุงได้ | หรือ หากนำเปลือกผลส้มโอมาผสมกับน้ำผึ้งแล้วนำไปนึ่งรับประทานทุกเช้าเย็น ก็จะช่วยบรรเทา | อาการของโรคหืดได้ | | เมล็ด ของส้มโอมีสรรพคุณ ช่วยบำรุงกระเพาะอาหารลดอาการปวดบวมของ | ผิวหนัง และยังช่วยลดปริมาณของเสมหะที่มีในลำคอไ้ด้อีกด้วย | | ผล ช่วยเจริญอาหาร หากรับประทานเนื้อส้มโอหลังอาหาร จะช่วยให้ระบบย่อย | อาหารทำงานได้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น |
|
| | สูตรยาจากส้มโอ | การรักษา | ส่วนที่ใช้ | วิธีใช้ | รักษาฝี | เปลือกผลแก่ของส้มโอ | -ตำเปลือกผลแก่ให้ละเอียด ใช้พอกบริเวณที่ | | | เป็นฝี วันละ 2 - 3 ครั้ง หัวฝีจะหลุด | | | | แก้อาการอาหารไม่ย่อย | เปลือกผลแก่ของส้มโอ | - นำเปลือกผลแก่ไปตากแดดให้แห้ง จากนั้น | | | ใช้ 10 กรัม ไปต้มรวมกับลูกเร่วแห้ง 10 กรัม | | | ใบกระเพาะอาหารไก่ 1 ใบ ผักคาวทองสด | | | 15 กรัม ผงยีสต์แห้ง 1 ช้อนชา รับประทาน | | | หลังอาหาร จะช่วยลดอาการท้องอืดท้องเฟ้อ | | | เนื่องจากอาหารไม่ย่อย |
|
| |
| | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | | |
| |
| | | |
| | | | |
| | | | | |